เชื่อว่าหลายคนที่กำลังจะเรียนจบจากคณะเภสัชศาสตร์หรือเรียนจบไปแล้ว คงเคยมีความคิดว่าอยาก ไปหาประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร ข้อมูลในส่วนนี้ได้ถูกรวบรวมจากประสบการณ์ของผู้เขียนเพื่อบอกเล่าขั้นตอนต่างๆ ว่าจะทำอย่างไรถ้าเราเรียนจบจากประเทศไทย แล้วต้องการที่จะไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศ แต่จะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

Blog ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับรายละเอียดและแนวข้อสอบ

Wednesday, July 30, 2008

วีซ่า

ก่อนที่จะทราบขั้นตอนการเป็นเภสัชกรในอเมริกานั้น ขอเล่าเกี่ยวกับวีซ่าชนิดต่าง ๆ ที่ควรรู้ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อน เพราะหลายคนจะสงสัยเรื่องวีซ่ากันมาก ชนิดของวีซ่าอเมริกาแบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ดังนี้คือ


1. Nonimmigrant visa คือ วีซ่าชั่วคราว หมายความว่าไปอเมริกาแล้วจะต้องกลับมาประเทศเรา แบ่งคร่าวๆ ได้ดังนี้ (เอาเฉพาะที่เราควรรู้ เพราะมีหลายชนิดมาก)



1.1 Tourist visa (B2) ก็คือวีซ่าท่องเที่ยว ไปอเมริกาเพื่อเที่ยว เพื่อเยี่ยมญาติ เยี่ยมเพื่อน การได้มาซึ่งวีซ่าท่องเที่ยวเราต้องแสดงหลักฐานให้ท่านกงสุลพอใจว่าเราจะกลับมาประเทศไทยแน่ๆ ไม่ได้จะไปหางานทำที่โน่น ถ้าเราบอกว่าเราต้องการไปทำงาน เราจะถูกปฏิเสธวีซ่าทันที ระยะเวลาของวีซ่ามีหลากหลายตั้งแต่ ไม่กี่วันจนถึงสูงสุดคือ 10 ปี แต่การได้วีซ่าหลายๆ ปี ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไปอยู่อเมริกาได้เป็นเวลาหลายปี แต่หมายความว่าจะเข้าอเมริกากี่ครั้งก็ได้ภายในระยะเวลาหลายปีนั้น เช่นถ้าเราได้วีซ่าท่องเที่ยวระยะเวลา 5 ปี ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถไปอยู่ที่นั่นได้เป็นเวลา 5 ปีแล้วค่อยกลับ แต่เราจะอยู่ได้แต่ละครั้งนานเท่าไรขึ้นอยู่กับด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่เราจะเจอเมื่อลงเครื่องบินที่สนามบินซักแห่งในอเมริกา ซึ่งปกติเค้าจะให้อยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 6 เดือน ถ้าเกิดอยู่เกิน 6 เดือนก็ถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนการจะได้มาซึ่งวีซ่า 10 ปีนั้น ไม่มีใครทราบว่าต้องตอบคำถามอย่างไรจึงจะได้ กงสุลจะพิจารณาจากหลักฐานต่างๆ ที่เรายื่นไปบวกกับความโชคดีของเราเองด้วย วีซ่าท่องเที่ยวไม่สามารถทำงานใดๆ ในอเมริกาได้ การลักลอบทำถือว่าผิดกฎหมาย



1.2 Student Visa (F1) ก็คือวีซ่านักเรียน การจะได้มาซึ่งวีซ่านักเรียนก็ต้องให้โรงเรียนที่อเมริการับเราเข้าเรียนก่อน ซึ่งต้องมีหลักฐานจากทางโรงเรียนมาประกอบการขอวีซ่า (I-20) ไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษา เรียนดิโพลมา หรือเรียนปริญญา และตอนสัมภาษณ์ต้องยืนยันว่าเราจะกลับมาหลังจากเรียนจบแน่ๆ ระยะเวลาของวีซ่านั้นขึ้นกับระยะเวลาที่เราไปเรียน แต่จะอยู่ได้นานเท่าไรก็ขึ้นกับ ตม.อีกเช่นกัน วีซ่านักเรียนทำงานไม่ได้เช่นกัน ยกเว้นงานใน campus ที่เราเรียนอยู่ซึ่งต้องติดต่อกับทาง campus เองหลังจากไปถึงที่เรียนแล้ว



1.3 Temporary working visa คือวีซ่าทำงานชนิดชั่วคราว อันนี้มีหลายชนิดแต่ที่เกี่ยวข้องกับเราคือ H-1B ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับวิชาชีพที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะทางซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถหาคนอเมริกันมาทำงานได้ (ขาดแคลน) เช่น แพทย์ เภสัชกร วิศวกร IT อาจารย์ รวมถึง นางแบบ เป็นต้น การจะได้มาซึ่ง H1B จะต้องหางานให้ได้ก่อน แล้วนายจ้างจะเป็นคนขอวีซ่าชนิดนี้ให้จากอเมริกา เราไม่สามารถขอวีซ่าชนิดนี้เองได้ วีซ่าชนิดนี้เป็นวีซ่าชั่วคราวแบบพิเศษเพราะว่าเราไม่ต้องแสดงหลักฐานว่าจะกลับมาเมืองไทย และสามารถขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (ขอGreen Card)ได้ต่อไป



ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้จาก http://www.uscis.gov/graphics/services/tempbenefits/ecrd.htm#anchorH1B



2. Immigrant visa เป็นวีซ่าถาวรหรือ Green Card ซึ่งถ้าได้ใบนี้แล้วเราจะเป็น permanent resident สามารถอยู่อเมริกาได้ตลอด ทำงานได้เลย และสามารถที่จะสอบเป็น American citizen ได้ต่อไป วิธีการจะได้ Green Card นั้นมีหลายวิธี เช่น ลูกขอให้พ่อแม่, พ่อแม่ขอให้ลูก, พี่น้องขอให้พี่น้อง, นายจ้างขอให้ลูกจ้าง, ได้จากการแต่งงานกับคนอเมริกัน หรือได้จาก Green card lottery program เป็นต้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://travel.state.gov/visa/immigrants/info/info_1339.html



ถ้าต้องการทราบข้อมูลเรื่องวีซ่าเพิ่มเติมสามารถเข้าไปได้ที่ http://bangkok.usembassy.gov/ ไปตรง visas to USA และขอแนะนำให้เข้าไปในเว็บไซต์ www.pantip.com/cafe/klaibann, http://www.usvisa4thai.com/ และ http://www.murthyforum.atinfopop.com/ ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดโพสต์ถามตอบที่จะมีเพื่อนๆ หลายคนที่มีความรู้ประสบการณ์มาให้ความรู้ด้านวีซ่า ขั้นตอนการเตรียมตัวและประสบการณ์ การสัมภาษณ์วีซ่า ซึ่งจะทำให้เราเตรียมตัวในการขอวีซ่าได้ดีขึ้น





1 comment:

Anonymous said...

I don't know, how hard to get the visa or go to and want to work in the U.S. recession is really bad. So.. think about it.